มุ่งสร้างฝันให้เป็นจริงกับวิชพงษ์ หัตถสุวรรณ เจ้าของแบรนด์กางเกงยีนส์ Selvedgework – custom handcraft denim

มุ่งสร้างฝันให้เป็นจริงกับวิชพงษ์ หัตถสุวรรณ เจ้าของแบรนด์กางเกงยีนส์ Selvedgework – custom handcraft denim

วิชพงษ์ หัตถสุวรรณ
วิชพงษ์ หัตถสุวรรณ ผู้สร้างแบรนด์ Selvedgework
วันนี้ได้มีโอกาสคุยกับ คุณบูม วิชพงษ์ หัตถสุวรรณ เกี่ยวกับ custom handcraft denim ที่คุณบูม วิชพงษ์เป็นผู้สร้างแบรนด์ กางเกงยีนส์ Selvedgework กางเกงยีนส์ที่ customise ให้เหมาะเฉพาะกับตัวคุณ ให้เป็นที่รู้จัก มีลูกค้าทั้งในและต่างประเทศมากมาย
วิชพงษ์ หัตถสุวรรณ
คุณบูม วิชพงษ์ หัตถสุวรรณ

คุณบูม วิชพงษ์ หัตถสุวรรณ เด็กหนุ่มผู้มีฝันและหมกมุ่นที่จะทำให้เป็นจริง เริ่มต้นผมได้ถามเกี่ยวกับที่มาที่ไปว่ามาทำกางเกงยีนส์ได้ยังไง ก้อได้ความว่า คุณวิชพงษ์นั้นมีความฝันที่จะสร้างแบรนด์กางเกงยีนส์ขึ้นมานานมากแล้ว ตั้งแต่ยังเรียนอยู่มหาลัยฯปี3-4 โดยเรียนทางด้านการตลาด และที่บ้านเป็นโรงงานตัดยีนส์ให้กับแบรนด์ดังๆ ต่างๆมากมาย แต่ไม่ได้มีแบรนด์เป็นของตนเอง เนื่องจากคลุกคลีกับยีนส์มานาน คุณวิชพงษ์จึงอยากทำแบรนด์กางเกงยีนส์ของตนเองขึ้นมาโดยจะให้เป็นกางเกงยีนส์ที่เหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละคน

selvedgework
packaging ของ selvedgework

หลังจากเรียนจบคุณวิชพงษ์ก้อหางานทำไปเรื่อยๆ และได้ตั้งวงร้องเพลงกับเพื่อนๆ ตามผับ รวมทั้งหาความรู้เกี่ยวกับแบรนด์และการตลาดไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น workshop ต่าง และระหว่างนั้นที่ยังหางานทำอยู่ ก้อได้นำเอาผ้ายีนส์มาตัดทรงแบบต่างๆ มาฟอกโดยอาศัยโรงงานของทางบ้านไปก่อน ได้ทำการค้นคว้าหาวิธีใหม่ๆ ในการทำยีนส์ของตนเองให้มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ โดยในข่องทางการขายคุณวิชพงษ์มองว่าจะทำเป็นเว็บไซต์ออนไลน์ที่คนทั่วไปสามารถมา custom กางเกงยีนส์ของตนเองได้เลย แต่เว็บไซต์ก้อประสบปัญหาเว็บไซต์ล่มล้มไป ประจวบกับมีบริษัทติดต่อให้ไปทำงานในตำแหน่งที่ชอบ เลยตัดสินใจว่าจะไปเป็นพนักงานออฟฟิศละ แต่แล้วทางบริษัทกลับให้ไปทำอีกตำแหน่งนึงซึ่งคุณบูมไม่ได้สนใจเลยตัดสินใจว่าไม่เอาละ สร้างแบรนด์ของตัวเองเป็นเจ้านายตัวเองดีกว่า จึงผลิตแคตตาล็อกมาชุดนึง แล้วเริ่มขายกางเกงยีนส์ให้กับเพื่อนๆ กันก่อน แล้วค่อยกระจายไปหาเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนไปเรื่อยๆ จนรู้สึกว่า เราหาเงินได้นี่ คนชอบ เลยคิดว่าต้องเอาจริงแล้วละ ไม่ทำตอนนี้แล้วจะทำตอนไหน เลยวาดแผนโครงการไปเสนอกับป๊าม๊า เพื่อขอทุนมาเปิดร้านจริงจัง โดยทำ package สวยงามและนำเสนอ คุณพ่อของคุณวิชพงษ์ เมื่อเห็นสินค้าแล้วก้อบอกว่า ขายได้สวยมาก รวมกับแผนการทำธุรกิจที่วางไว้ เลยให้การสนับสนุนทางการเงินมา Selvedgeworkจึงได้มาเปิดร้านอยู่ที่สยามซอย 2 นี่เอง

selvedgework
ที่ตั้งร้าน selvedgework สยามสแควร์ ซอย2

หลังจากที่เกร่ินถึงที่มาที่ไปของการเริ่มแบรนด์กางเกงยีนส์ Selvedgework แล้ว ก้อมาถึงเรื่องของยีนส์กันบ้างครับ ยีนส์นั้นมีหลายทรง ไม่ว่าจะเป็นขาบาน ขาตรง หรือ ขาเดฟ แต่ทรงที่นิยมในปัจจุบันนี้ จะออกไปในแนวขากระบอกและขาจะเล็กลงเรื่อยๆ

selvedgework
ภายในร้าน Selvedgework

กางเกงยีนส์ Selvedgework สามารถเลือก custom ได้หลายส่วน คือ
1.ทรงของกางเกง การออกแบบของกางเกงยีนส์แบบคัสตอมของ Selvedgework จะสามารถทำได้ตั้งแต่เลือกทรงการเกงยีนส์ โดยแบ่งเป็น 4ทรง

ทรงกางเกงยีนส์
ขั้นตอนแรกเลือกทรงการเกงที่ต้องการ

โดยการวัดทรงหรือกำหนดขนาดแต่ละส่วนแล้วจำเป็นต้องสอบถามลักษณะการใช้งานของผู้ซื้อด้วย ถ้าเป็นคนที่ซักบ่อย อาจจะต้องวัดให้หลวมนิดนึงเพราะเมื่อซักแล้วกางเกงจะหดตัว แต่ถ้าผู้ซื้อเป็นคนที่อยากให้กางเกงขึ้นลายสวยๆ ไม่ค่อยซักกางเกงสักเท่าไหร่ จะต้องตัดให้ทรงฟิตนิดนึงเพราะว่าใส่ๆไป กางเกงอาจจะมีการยืดได้ด้วย

2. เนื้อผ้า หลังจากเลือกทรงได้แล้ว จะตามด้วยเลือกสีและเนื้อผ้า โดยเนื้อผ้าแต่ละม้วนจะมีความแตกต่างกัน ทั้งสี ลาย และเนื้อผ้า

เลือกเนื้อผ้าที่ต้องการ
ขั้นตอนที่2 เลือกเนื้อผ้า และสีของยีนส์ที่ต้องการ

คุณวิชพงษ์ได้บอกว่า ผ้าแต่ละม้วนจะนำมาตัดได้เพียงแค่ 100ตัวเท่านั้น และจะมีการรันตัวเลขให้รู้ด้วยว่าเป็นตัวที่เท่าไหร่ของม้วน เมื่อผ้าหมดม้วนแล้วจะหมดเลย ต้องหาม้วนใหม่ที่มีเอกลักษณ์แบบใหม่มาแทน ทำให้กางเกง ยีนส์ Selvedgework เป็นกางเกง limited edition กลายๆ

กระเป๋าด้านในบอกถึงจำนวนยีนส์จากผ้าม้วนนั้นๆ
กระเป๋าด้านในบอกถึงจำนวนยีนส์จากผ้าม้วนนั้นๆ

ความแตกต่างของกางเกงยีนส์ Selvedgework จะมีเรื่องของหน้ากว้างของม้วนผ้าที่เลือกมาใช้ด้วย โดยจะเป็นม้วนผ้าที่มีหน้ากว้างแคบกว่าม้วนผ้ายีนส์ปกติทั่วไป เพื่อที่ว่าจะได้ขอบของกางเกงยีนส์ ที่ทำให้มีการขึ้นลายที่สวยงาม และตรงขอบกระเป๋าหลังจะเป็นริมผ้าพอดี ทำให้ขอบกระเป๋าหลังของกางเกงยีนส์ไม่หลุดลุ่ยง่ายๆ

ริมกระเป๋า Selvedgework
ริมผ้าของ selvedgework จะใช้ริมพอดี ทำให้แข็งแรงไม่หลุดลุ่ย

3. ส่วนประกอบตกแต่งยีนส์ หลังจากเลือกผ้า เลือกทรงได้แล้ว ก้อมาถึงสิ่งตกแต่ง เพื่อบ่งบอกความเป็นตัวตนของแต่ละบุคคล มีทั้งสีของด้าย กระดุมประเภทต่างๆ ป้ายหนัง โดยมีให้เลือกได้หลากหลาย และนอกจากนั้น ยังมีการเลเซอร์ชื่อลงบนกางเกงยีนส์ของคุณได้อีกด้วย

กระดุมและแท็ก
เลือกกระดุมและแท็กติดกางเกงยีนส์
ชนิดของด้ายที่สามารถ Custom ได้
ชนิดของด้ายที่สามารถ Custom ได้

หลังจากเลือกทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จสรรพแล้ว คุณก้อนั่งนับวันรอได้เลยคับ 7-10วัน คุณก้อจะได้รับกางเกงยีนส์ Selvedgework ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองของคุณแล้วคับ

lasor ตามชื่อที่ต้องการ
lasor ตามชื่อที่ต้องการ

คุณวิชพงษ์ บอกว่าแบรนด์ Selvedgework เน้นไปที่ 3 อย่างคือ Quality, Detail, Custom
ซึ่ง Quality จะเน้นไปที่วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ และช่างตัดเย็บที่ทำอย่างปราณีต โดยใส่ใจในทุกๆ Detail ของกางเกงยีนส์ ที่จะ Customise ให้เข้ากับตัวของคุณเอง

Selvedgework package
ผลิตภัณฑ์ Selvedwork ที่จะได้รับ

หลังจากคุยเรื่องcustomยีนส์ไปแล้ว กลับมาสู่เรื่องของคุณวิชพงษ์กันบ้าง คุณวิชพงษ์ได้บอกว่า เนื่องจากเป็นคนที่มีใจรักในด้านดนตรี เคยตั้งวงดนตรีกับเพื่อนๆ ชื่อว่าวง Secret Tea Party แต่พอมาทำยีนส์จึงไม่มีเวลา แต่ยังรักในเสียงดนตรีอยู่ จีงได้เป็นผู้สนับสนุนในการจัดแสดงคอนเสิร์ตให้กับศิลปิน ไม่ว่าจะเป็น เป้ อารักษ์ หรือ เล็ก greasy cafe และมองไว้ว่าในอนาคตอาจจะมีการนำเอาวงจากต่างประเทศเข้ามาจัดคอนเสิร์ตในไทยก้อได้

Concertconcert-2มาในมุมมองของธุรกิจบ้าง คุณวิชพงษ์ได้บอกว่า ตนเองมองการสร้าง Selvedgework นั้น เป็น Business Model ที่ใหม่ และสามารถพิสูจน์ตัวเองในระดับนึงแล้วในระยะเวลาปีกว่าๆ ว่าสามารถทำได้ มีหน้าร้าน มีลูกค้า และได้ผลตอบรับที่ดี แต่ก้อมองว่าในอนาคตเฟสที่ 2 จะต้องทำให้ธุรกิจนี้โตต่อ และสามารถก้าวต่อไปในอนาคต โดยมองว่าต้องสู้หนักขึ้น และ work hard กว่าเดิม

จากการได้พูดคุยกับคุณวิชพงษ์ หัตถสุวรรณแล้ว ก้อทำให้ได้ความรู้มากมายทั้งเรื่องการสร้างแบรนด์ กางเกงยีนส์ Selvedgework custom jean ที่เข้าใจในความแตกต่างของแต่ละคน และหยิบเอาความแตกต่างมาเป็นจุดขายของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งมีความใส่ใจและทุ่มเทในงานที่ทำ มุ่งมั่นตามฝันที่วาดไว้ โดยที่ไม่ได้เอาแต่ฝันเพียงอย่างเดียว การวาดฝันนั้นต้องฝันบนพื้นฐานความเป็นจริงด้วย มีความเป็นไปได้ และพยายามทำให้ฝันนั้นเป็นจริงอย่างมุ่งมั่นและแน่วแน่

Kinshiro ร้านอาหารญี่ปุ่นจากนางาซากิสู่ Rain hill สุขุมวิท47

Kinshiro ร้านอาหารญี่ปุ่นจากนางาซากิสู่ Rain hill สุขุมวิท47

วันนี้มีนัดมารีวิวร้านอาหารญี่ปุ่นจากนางาซากิกับแก๊งค์เพื่อนๆ กันครับ โดยร้านจะอยู่ระหว่างรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์กับทองหล่อคับ อยู่กลางใจเมืองกันเลยทีเดียว ชื่อร้าน Kinshiro ร้านอยู่บนชั้น 3 ของห้าง Rain Hill คับ เริ่มแรกก้อนัดกับเพื่อนที่รถไฟฟ้าพร้อมพงษ์แล้วเดินต่อไปจนถึง Rain Hill คับ ค่อนข้างไกลทีเดียว ถ้าให้ดีเดินทางมาจากทางฝั่งทองหล่อ น่าจะใกล้กว่านะคับ
บรรยากาศในร้าน kinshiro
ภายในร้าน kinshiro

ถึง Rain Hill แล้วขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น3 เลยคับ เดินย้อนมาทางด้านหน้าห้างครับ ร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่ทางขวามือเลยคับ ร้านสว่างๆ ตกแต่งสวยงามครับ เห็นว่าเพิ่งเปิดมาได้มานานนัก ร้านดูเรียบๆ เงียบสงบดีครับ มองเข้าไปก้อเจอบาร์น้ำกับเคาน์เตอร์เลยคับ พวกผมเลือกนั่งด้านในจะได้เสียงดังกันได้

เคาน์เตอร์ร้าน <span style=

ซุปฟักทอง
ซุปฟักทอง

มาถึงโต๊ะเรียบร้อย ทางร้านก้อเสริฟก่อนเลยคับ Pumpkin/Potato Soup เป็นออเดิร์ฟก่อนเลย โดยเสริฟมาในถ้วยเล็กๆ พอดีได้ซด อร่อยคับ แต่ละวันทางร้านจะเสริฟไม่เหมือนกันนะครับระหว่างฟักทองกับมันฝรั่ง แล้วแต่วันสลับกันไปครับ สามารถสั่งเป็นเมนูได้นะคับ จะเอาร้อนหรือเย็นบอกทางร้านได้ครับ

Testsukuri Goma Tofu
Testsukuri Goma Tofu

ต่อด้วย Testsukuri Goma Tofu เต้าหู้ครับ แหม ไอ้ผมนะไม่ชอบเต้าหู้เลยด้วย เคยกินแล้วแหยะๆ แต่พอเพื่อนกินแล้วบอกมันไม่ใช่เต้าหู้แบบที่เคยกินนะ ลองดูๆ ผมก้อเอาช้อนตัก เฮ้ย มันไม่ใข่อ่ะ มันไม่เหมือนเราตักเต้าหู้ทั่วๆ ไป มันหยุ่นๆ เหนียว หนึบๆ ไม่เหมือนที่เคยกินเลยครับ เห็นว่าเป็นเต้าหู้งาที่ทำด้วยมือเลยนะคับ รสชาติอร่อยดีด้วย ต้องลองครับ แนะนำเลย

Gyu Tataki
Gyu Tataki ยำเนื้อญี่ปุ่น

Gyu Tataki ยำเนื้อญี่ปุ่นครับ เป็นอาหารญี่ปุ่นที่เหมาะกับกินแกล้มเบียร์มากครับ เปรี้ยวนิดๆ

สั่นกระดิ่งเรียกเสริฟเบียร์ได้เลยคับ
สั่นกระดิ่งเรียกเสริฟเบียร์ได้เลยคับ
ผักคอสย่างราดซอสมิโซะ
ผักคอสย่างราดซอสมิโซะ

ผักคอสย่างราดซอสมิโซะ มีใส่แองโชวี่ด้วย กลิ่นหอม รสชาติออกเค็มหน่อยๆ ครับ หอมอร่อยครับ เมนูนี้แนะนำครับ

salmon steak
สเต็กเนื้อปลาแซลม่อน

ตามด้วย Salmon Steak คับ น้ำจิ้มเป็นสูตรของทางร้านปรุงเองคับ ทำจากแอปเปิ้ลและไชเท้าครับ รสชาติน้ำจิ้มอร่อยและแปลกจากที่อื่นดีครับ

kaisen sarada
ยำสาหร่ายญี่ปุ่น ราดด้วยน้ำส้มสายชู

เป็นยำสาหร่ายญี่ปุ่นมีปลาหมึกด้วยคับ

chawan mushi
ไข่ตุ๋น

ตามติดด้วยเมนูไข่ตุ๋น ที่มีรสชาติและความอร่อยที่แตกต่างจากที่อื่นคับ เนื้อของไข่จะหยุ่นๆ คล้ายวุ้นคับ และมีใส่กุ้งและส้มยูสุด้วยครับ

wagyu A4
เนื้อวากิวระดับ A4

ตามมาด้วยเมนูที่รอคอยครับ เนื้อวากิว ระดับ A4 จากจังหวัดนางาซากิครับ ซึ่งเป็นเนื้อมาจากที่เดียวกับเนื้อที่ได้รับรางวัลการประกวดเนื้อจากทั่วประเทศในปีนี้ จากนายกรัฐมนตรี ชินโซะ อาเบะ เลยนะครับ รสชาติผมขอไม่บอกนะคับ ของอย่างนี้ต้องไปชิมเองสิคับ รออะไร

wagyu
wagyu นำเข้าจากญี่ปุ่นเลยครับ มีวันที่แล่ และบรรจุเสร็จสรรพ
วากิว
วากิว

ก่อนทำการปรุงเชฟนำมาโชว์ให้ดูก่อนเลยครับ ว่าชิ้นนี้นะครับ ได้ทานกันแน่ๆ

Nagazaki Champon
Nagazaki Champon

เมนูเนื้อจากไปแล้ว ก้อมาด้วยอาหารเบาๆ แบบ นางาซากิ ซัมปง คับ

ซาระอุด้ง
ซาระอุด้ง คล้ายๆกับหมี่กรอบราดหน้าของไทยครับ

มาพร้อมกับ ซาระอุด้ง คล้ายๆ กับราดหน้าของไทยละครับ ได้รับอิทธิพลมาจากจีนเหมือนๆกัน

Hiyashi Somen
Hiyashi Somen จากร้าน Kinshiro

ยังไม่หมดครับ ตามมาด้วย Hiyashi Somen คับ เป็นบะหมี่เย็น แตกต่างจากบะหมี่เย็นเจ้าอื่นตรงที่เป็นเส้นสดครับ รสชาติดีมากคับ เส้นจะผิดจากบะหมี่เย็นที่เคยทานๆ เจ้าอื่นๆ แน่นอนครับ เส้นนิ่มนุ่มและไม่อยากให้พลาดครับ

Rainbow Roll
Rainbow Roll

ตบอาหารคาวสุดท้ายด้วย Rainbow Roll คับ มาทานร้านอาหารญี่ปุ่นก็ต้องลองข้าวปั้นสิครับ จะได้ครบสูตร รสชาติดีครับ

Castella Ice Cream
Castella Ice Cream

ปิดท้ายด้วยขนมหวานคับ เค้กคัสเทลล่า ไอศครีม เค้กคัสเทลล่านี่เป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างของนางาซากิ เลยนะครับ

หลังจากทานๆ ชิมๆ กันไปหลายเมนูแล้ว ก้อได้เวลาแยกย้ายครับ ขากลับออกจากร้าน Kinshiro ผมไปสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ เดินไม่ไกลครับ ไม่รู้เพราะระยะทางใกล้หรือว่ามีแอลกอฮอล์ในเลือดทำให้ความสามารถทางการเดินเท้าเพิ่มก้อไม่ทราบนะคับ อ๋อ อยากบอกอีกนิดครับ ว่าร้าน Kinshiro ร้านอาหารญี่ปุ่นร้านนี้นี่มาจาก นางาซากิ เลยครับ import ทั้ง อาหารและพ่อครัวมากันเลยทีเดียว อยากเชิญชวนให้ไปลองกันครับ รับรองไม่ผิดหวังคับผม ร้านเปิดสองรอบ รอบแรก 11:30-15:00น. และรอบสองตอน 17:00-23:00น. นะครับ ติดต่อร้านได้ที่เบอร์ 02 261 7389 ครับ