มาลองมอง Social Enterprise ในประเทศอินเดียกันดูบ้างนะครับ เพราะอินเดียเป็นประเทศหนึ่งที่มีปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชนที่เลื่อมล้ำกันมาก และหญิงสาวชาวอินเดียมักจะมีชีวิตที่ยากลำบากมากกว่าผู้ชาย ถึงขนาดที่ว่าการที่ผู้หญิงขี่จักรยานนั้นเป็นสิ่งที่แปลกและไม่สมควรเลยทีเดียว
Sumita Ghose หญิงชาวอินเดีย มองเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้ก่อตั้ง Rangsutra Crafts India Ltd. ขึ้นมา โดยRangsutraเป็นบริษัทแบบSocial Enterprise นั่นคือเป็นบริษัทที่ก่อตั้งโดยมีวัตถุประสงค์หลักในการแก้ไขปัญหาชุมชน เพื่อให้ชุมชนมีการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นบริษัทที่แสวงหากำไรแต่ไม่ได้นำกำไรตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้น แต่จะนำกำไรนั้นกลับมาเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคมต่อไป
Rangsutra บ.ที่ก่อตั้งมาเพื่อสร้างงานให้กับผู้หญิงในชนบทของอินเดีย
Rangsutra นั้นจะรับสมัครหญิงสาวชาวอินเดีย โดยในตอนแรกผู้ที่สมัครมาทำงานด้วยจะได้รับการสอนถึงพื้นฐานการทอผ้า,ปัก และตัดเย็บ เมื่อชำนาญแล้วจึงให้ไปสร้างสรรค์ผลิตสิ่งทอแบบต่างๆ ผลิตภัณฑ์ของ Rangsutra มีตั้งแต่ชุดเสื้อผ้าผู้ชาย ผู้หญิง และของตกแต่งบ้าน 
Rangsutra ก่อตั้งขึ้นมาในปี 2006 จนถึงในปี 2015 นั้น Rangsutra มีพนักงานมากถึง 1,800คน โดยพนักงานส่วนใหญ่นั้นเป็นผู้หญิง และในปี 2015 IKEAบริษัทเฟอร์นิเจอร์จากสวีเดนชื่อดัง เห็นถึงการช่วยเหลือหญิงสาวในอินเดียจาก Sumita ทางIKEAจึงได้จับมือกับ Rangsutra ร่วมกันออกสินค้า Limited edition ที่จะนำสินค้าที่ออกแบบให้ทาง Rangsutra เป็นผู้ผลิตมาวางขายในยุโรป และผลกำไรทั้งหมดที่ได้จากสินค้ารุ่นดังกล่าวจะนำกลับเข้าสู่โครงการความร่วมมือระยะยาวกับผู้ประกอบการที่เป็นSocial Enterpriseเจ้าอื่นๆ ต่อไป
มองมาในประเทศไทย มีสิงห์ปาร์คเชียงรายที่เป็นกรณีศึกษาเรื่องSocial Enterprise ในไทยอยู่ และนับว่าเป็นธุรกิจที่มีการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน(Sustainable development)เพื่อชาวจังหวัดเชียงราย โดยคนงานในสิงห์ปาร์คจะเป็นชาวบ้านและชาวเขาในจังหวัดเชียงราย เป็นการพัฒนาโดยใช้คนเป็นศูนย์กลางในการพัฒนา(People centered) ทำให้เกิดเป็น Local community ที่ขับเคลื่อนจังหวัดเชียงรายให้พัฒนาสังคมให้ชาวเมืองมีรายได้เลี้ยงชีพได้อย่างดี ถือเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน(Sustainablility)
Social Enterprise นั้นเรียกว่าเป็น trendในการทำธุรกิจที่เกิดขึ้นมาสักพักหนึ่งแล้ว และธุรกิจทั่วโลกให้ความสนใจกันมากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าเป็นธุรกิจที่ดีและช่วยเหลือสังคม และ Social Enterprise เป็นธุรกิจที่ดีกว่าเพียงแค่แคมเปญ CSR ของบริษัทต่างๆ ซึ่งมักขาดความยั่งยืนในการพัฒนาที่ต่อเนื่อง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในอนาคตบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายในไทย จะสนใจในกิจการเพื่อสังคมกันมากขึ้น มาร่วมช่วยกันพัฒนาสังคมให้ดีขึ้นในแบบที่ยั่งยืนต่อไป
ขอขอบคุณเนื้อหาและภาพประกอบจาก http://lmt-lss.com http://www.womenonwings.com http://www.ikea.comhttp://www.rangsutra.com http://www.gettyimages.com
